คอลลาเจน
ปลดล็อกความลับของธรรมชาติสู่ความงามเหนือกาลเวลา ดำดิ่งลงสู่ความมหัศจรรย์ของกลุ่มคอลลาเจนระดับพรีเมียมของเรา ที่ผ่านการรับรองจากมาตรฐานสากล ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพ โอบรับรูปลักษณ์ที่เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา และไร้ที่ติอย่างเป็นธรรมชาติ อย่ารอช้า ฟื้นฟูผิวใหม่วันนี้เลย
คอลลาเจน
คอลลาเจน (Collagen) คือ อะไร
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นมาพบได้ทั้งในมนุษย์ และสัตว์ ซึ่งคอลลาเจนมีหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตาย ป้องกันรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวดูมีออร่าชุ่มชื้น โดยคอลลาเจนสามารถพบได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น ข้อ หลอดเลือด และอวัยวะอื่นๆ ซึ่งคอลลาเจนการมีการลดน้อยลงไปตามอายุ การรับประทานอาหารเสริมที่มีคอลลาเจน ก็สามารถช่วยส่งเสริมคอลลาเจนในร่างกายได้
A title
Image Box text
ราคาของคอลลาเจนนั้นมีหลากหลายราคา โดยปัจจัยหลักๆ จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ประเภท ปริมาณ และสารสกัดในตัวผลิตภัณฑ์ ราคาเฉลี่ยของคอลลาเจนขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้น โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้
- คอลลาเจนแบบผงชงกินกับน้ำ ราคาเฉลี่ยประมาณ 250 บาท – 5,000 บาท
- คอลลาเจนแบบเม็ด ราคาเฉลี่ยประมาณ 250 บาท – 3,500 บาท
- คอลลาเจนแบบทา ราคาเฉลี่ยประมาณ 300 บาท – 8,000 บาท
คอลลาเจน มีประโยชน์อย่างไร ช่วยเร่งให้ผิวขาวได้จริงไหม
ประโยชน์ของคอลลาเจนมีดังนี้
- ดูแลสุขภาพผิวหนัง คอลลาเจนมีส่วนช่วยในการรักษา และฟื้นฟูความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของผิวหนัง ทำให้ผิวดูกระชับ นุ่ม และดูอ่อนเยาว์
- ทำให้เส้นผม และเล็บดูเงางาม เส้นผมดูไม่แห้งกร้าน แตกปลาย เล็บแข็งแรงไม่ฉีกขาดง่าย
- รักษาข้อต่อ และกระดูก คอลลาเจนช่วยในการรักษา และชะลอการสึกหร่อของข้อต่อ และกระดูก
- รักษาแผล คอนลาเจนสามารถทำให้แผลแห้ง และสมานเร็วขึ้น
คอลลาเจนช่วยเร่งผิวขาวได้จริงมั้ย
ต้องบอกว่าไม่จริงเสียทีเดียว เนื่องจากในคอลลาเจนไม่ได้มีสารที่ช่วยกระตุ้นต่อเม็ดสีผิวโดยตรง จึงไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้น แต่คอลลาเจนมีผลทางอ้อมที่อาจทำให้ผิวขาวขึ้น เพราะคอลลาเจนจะทำให้ผิวดูนุ่มชุ่มชื้น กระชับ และเรียบเนียนขึ้น โดยคอลลาเจนจะไปช่วยเติมเต็ม หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอบริเวณที่คอลลาเจนหายไปจากส่วนต่างๆ ในร่างกายเรา จึงส่งผลให้โครงสร้างชั้นผิวแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย และไม่เกิดริ้วรอยแบบร่องลึกง่ายจนเกินไป แล้วพอผิวตึง ก็เลยดูเปล่งปลั่งขึ้น ดูขาว และเนียนขึ้นนั่นเอง
คอลลาเจน กินตอนไหน และเหมาะกับใคร
จากการวิจัยพบว่าคอลลาเจนไม่ได้มีช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุดเฉพาะเจาะจง นั่นหมายความว่าคอลลาเจนสามารถทานตอนไหนก็ได้ตามต้องการ แต่ช่วงเวลาที่แนะนำคือทานในช่วงที่ท้องว่าง เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปในส่วนต่างๆได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนอีกด้วย
ใครเหมาะสมที่จะทานคอลลาเจน
A title
Image Box text
ผู้สูงอายุ
- แม้ร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้เองจากอาหารที่ทานไป แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของจะสามารถรับสารอาหาร และผลิตคอลลาเจนออกมาได้น้อยลงตามวัย การทานคอลลาเจนเข้าไป จะช่วยส่งเสริมให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ แต่สำหรับผู้สูงอายุสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ คอลลาเจนจะเข้าไปช่วยดูแลรักษากระดูก และข้อกระดูก ไม่ให้พรุน หรือสึกหร่อ
ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และผิวพรรณ
- คอลลาเจนมีส่วนช่วยในการบำรุง เส้นผม เล็บ กล้ามเนื้อ และที่สำคัญคือช่วยทำให้ผิวกระชับ ดูสดใส เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติตามวัย แต่ปัจจัยที่จะทำผิวพรรณเปล่งปลั่งก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น การพักผ่อน อาหารที่รับประทานร่วม ความเครียด การออกกำลังกาย และอื่นๆ ที่ต้องดูแลควบคู่กันไปด้วย
ผู้ที่มีอาการปวดตามข้อ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก
- โดยคอลลาเจนจะเข้าไปดูแล และซ่อมแซมกระดูก และข้อที่สึกหร่อให้ดีขึ้น การรักษาทางการแพทย์ควบคู่กับการทานคอลลาเจน จึงมีส่วนช่วยในการทำให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้
วัยทำงาน หรือผู้ที่มีอายุ 25 ปี ขึ้นไป
- ไม่จำเป็นต้องมีอาการ หรือรอให้แก่ตัว คุณก็สามารถเริ่มทานคอลลาเจน เพื่อดูรักษาร่างกายของคุณเนิ่นๆ ได้ตั้งแต่ในช่วงวัยนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ร่างกายคุณ เมื่อตอนที่คุณเริ่มมีอายุมากขึ้น
คอลลาเจน มีกี่ประเภท ควรเลือกแบบไหนดี
คอลลาเจนที่พบบ่อยๆ จะมีอยู่ 5 ประเภทได้แก่
- คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Type I) เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากถึง 90 % ของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างกระดูก ผิวหนัง เส้นผม เล็บ กระดูก กล้ามเนื้อ กระจกตา คอลลาเจนชนิดนี้เป็นคอลลาเจนที่เหนียว และแข็งแรงที่สุด มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้ฉีกขาดง่าย ช่วยสมานแผล
- คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Type II) พบได้ในส่วนของข้อต่อ กระดูกอ่อน และหมอนรองกระดูก ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์เป็นจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงของการเสื่อม และสึกหร่อของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ
- คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Type III) ส่วนมากจะพบร่วมกับคอลลาเจนประเภทที่ 1 โดยจะพบในกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อของร่างกาย แต่จะมีอยู่ประมาณ 10 % ซึ่งพบอยู่ในผนังหลอดเลือด
- คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Type IV) เป็นคอลลาเจนที่มีส่วนร่วมในการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือด จะพบมากในบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ และไขมัน
- คอลลาเจนประเภทที่ 5 (Type V) คอลลาเจนชนิดนี้จะพบในเยื่อบุต่างๆ ผิวหนัง เลือด และเส้นผม
ในส่วนของการเลือกทานคอลลาเจนนั้นจะมีความต้องการอยู่ 2 ประเภทหลัก คือ
ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณ และเส้นผม
- โดยคนกลุ่มนี้จะเหมาะแก่การรับประทานคอลลาเจนประเภทที่ 1 ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีอยู่ 90 % ในร่างกาย ช่วยดูแลเส้นผม ผิวพรรณ ให้ดูเงางาม เปล่งปลั่ง โดยตรง
ผู้ที่ต้องการดูแลข้อต่อ หรือผู้ที่มีอาการเจ็บข้อ และกระดูก
- โดยคนกลุ่มนี้จะเหมาะกับการรับประทานคอลลาเจนประเภทที่ 2 ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงกระดูกอ่อน และข้อต่อโดยตรง ซึ่งเหมาะมากกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอาการบาดเจ็บข้อต่อ
นอกจากนี้คอลลาเจนยังแบ่งออกเป็น 4 ชนิดตามขนาดโมเลกุล ซึ่งขนาดที่เล็กจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น
- คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) มีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน
- คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนย่อยจนเหลือแค่กรดอะมิโน มีขนาดโมเลกุลเฉลี่ย 500-1000 ดาลตัน มีความสามารถในการดูดซึมได้ในระดับปานกลาง
- คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) เป็นคอลลาเจนเหลือกรดอะมิโน 2 ตัวเรียงกัน มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 200 ดาลตัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมากกว่า คอลลาเจนเปปไทด์ และ คอลลาเจนไตรเปปไทด์
- ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด โดยดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป 3-4 เท่า
คอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี (จากรีวิว และยอดขาย)
A title
Image Box text
คำถามที่มักจะพบบ่อยสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอลลาเจนมาทาน คือ ควรเลือก อาหารเสริม "คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี" วันนี้ maneeshop มีคำตอบมาให้ เพราะเราได้คัด 8 อาหารเสริมคอลลาเจนคุณภาพดี รีวิวเด็ด มาให้แล้ว ใครที่อยากผิวเนียนสวย ดูมีออร่า นุ่มเด้งทั้งตัว ห้ามพลาด! ต้องอ่านหัวข้อนี้ให้จบ ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อเราอายุมากขึ้น โปรตีนที่จำเป็นต่อผิวพรรณของเราอย่าง "คอลลาเจน" ก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ ตามอายุ ส่งผลให้ผิวของเราหย่อนคล้อย ไม่อ่อนเยาว์เหมือนเดิม
วันนี้ maneeshop เลยอยากชวนผู้อ่านมาทำความรู้จัก และเห็นความสำคัญของการกินคอลลาเจนให้มากขึ้น พร้อมทั้งแนะนำ 8 อาหารเสริมคอลลาเจน ที่ช่วยให้ผิวพรรณของสาวๆ เนียนนุ่ม อ่อนเยาว์ สุขภาพดีขึ้น แถมบำรุงข้อกระดูกได้ด้วย คอลลาเจนเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราดูดีขึ้น เพราะคอลลาเจนนั้นสามารถช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวสวย และสุขภาพผิวแข็งแรง ซึ่งวันนี้เราก็มี 8 คอลลาเจนแบรนด์ดัง ประจำปี 2023 มาอัพเดทให้ผู้อ่านกันค่ะ จะมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง ตามเรามาดูกันเลย
1. คอลลาเจน Red Queen
A title
Image Box text
แบรนด์ Red Queen เป็นคอลลาเจนเกรด A คุณภาพสูง ที่มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจน RED QUEEN ORA COLLY DIETARY ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดแบบผง มีส่วนผสมของส้มซัทสึมะ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึกของญี่ปุ่น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง และยังช่วยเรื่องระบบขับถ่าย สารสกัดจากส้มซัทสึมะ ช่วยฟื้นฟูผิวบาง ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง แก้ปัญหาผิวติดสาร และยังช่วยบำรุงตับ และลดไขมันพอกตับ คอลลาเจนไตรเปปไทด์เป็นเสมือนเกราะป้องกันผิว ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB และยังช่วยบำรุงเส้นผม ตั้งแต่รากผมจนถึงปลายผม เสริมสร้างกระดูก และเอ็น เติมเต็มร่องลึกของผิวผิวหน้าจึงกระจ่างใส ดูสุขภาพดี
ราคา 960 บาท ต่อ 1 กล่อง
2. อามาโด้ คอลลาเจน
A title
Image Box text
คอลลาเจนยอดนิยมในไทยการันตีด้วยรางวัลมากมาย ตัวคอลลาเจนนำเข้าจากญี่ปุ่น ดื่มง่ายไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมัน ดีต่อสุขภาพ คอลลาเจนยอดนิยมได้แก่ Amado Gold Collagen Ceramide ผสมคอลลาเจนถึง 3 ชนิด ได้แก่
- คอลลาเจนไตรเปปไทด์
- คอลลาเจนไทป์ ทู
- คอลลาเจนไดเปปไทด์
ราคาอยู่ที่ 329 บาท
3. ชาเม่ คอลลาเจน
A title
Image Box text
ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ชาเม่” เกิดขึ้นมาจากความใส่ใจในการดูแลบำรุงผิวพรรณ ของคุณนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ที่ไม่เพียงแค่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองเท่านั้น แต่ยังใส่ใจค้นคว้าหาข้อมูลอย่างจริงจัง ในทุกส่วนผสมที่มีผลต่อผิวพรรณ รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงาม และสุขภาพ มายาวนานกว่า 8 ปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2553 ผลิตภัณฑ์แรกของ “ชาเม่” จึงเกิดขึ้นคอลลาเจนยอดนิยมได้แก่ Chame Krystal Collagen มีส่วนผสมที่ดูแลฟื้นฟูผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และยังช่วยลดอการปวดของกระดูก และข้อ
ราคาอยู่ที่ 1 กล่อง 30 ซอง ราคาอยู่ที่ 475 บาท
4. คอลลาเจน แอมเวย์
A title
Image Box text
แอมเวย์ ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ด้วยระบบการตลาดประเภทหลายชั้น มีสินค้าในเครือหลายร้อยสินค้า ในปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมกว่า 3 ล้านคน คอลลาเจนที่แอมเวย์เป็นตัวแทนจำหน่าย คือ นิวทริไลท์ คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี คอลลาเจน ที่มีส่วนประกอบของ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนจากปลาทะเล ผงเปปไทด์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว มีหญ้าช่วยให้ความหวานแทนน้ำตาล
ราคาอยู่ที่กล่องละ 1,815 บาท
5. คอลลาเจน วัตสัน
A title
Image Box text
วัตสัน เครือข่ายร้านค้าชั้นนำที่ขายสินค้าหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงาม มีสาขาเกือบ 8,000 แห่ง ในเอเชีย และยุโรป คอลลาเจนยอดนิยมของวัตสัน คือ คอลลาเจน เปปไทด์ 4,500 มก. แบบ 15 ซอง มีส่วนประกอบจาก ผงราสพ์เบอร์รี่, คอลลาเจน เปปไทด์จากปลา, คอลลาเจน ไดเปปไทด์, แอล-ซิสเทอีน, สารสกัดอะเซโรล่าเชอร์รี่, แคลเซียม แอสคอร์เบต, โคเอนไซม์คิวเท็น, ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต, ไลโคพีน
ราคากล่องละ 199 บาท
6. โดนัท คอลลาเจน
A title
Image Box text
แบรนด์ที่มีคอลลาเจนหลากหลายชนิด และหลากหลายราคาให้เลือกตามความต้องการ โดยราคาไม่แพง สามารถเข้าถึง และจับต้องได้ง่าย คอลลาเจนยอดนิยคมของแบรนด์ คือ Donutt Collagen Dipeptide คอลลาเจนไดเปปไทด์ พลัสแคลเซียม 120,000 มก. และดูดซึมได้ดีกว่า 5 เท่า
ราคากระป๋องละ 175 บาท
ต่อไปจะขอพูดถึงคอลลาเจนในเซเว่นยอดนิยม ราคาถูก คอลลาเจน ตัวช่วยบำรุงผิวให้สวยเปล่งปลั่ง หาซื้อง่ายในเซเว่น คอลลาเจนแบบกินที่หาซื้อได้ง่ายๆ เพียงเดินเข้าเซเว่น ช่วยเรื่องบำรุงผิวให้สวยกระจ่างใส ดูสุขภาพดีจากภายใน
7. Rojukiss 3 Collagen
A title
Image Box text
คอลลาเจนในเซเว่นยอดนิยม ราคาถูก แบรนด์นี้นอกจากจะมีครีมทาผิวแล้ว ยังมีคอลลาเจนอีกด้วย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่หาได้ง่ายในเซเว่น และยังเป็นซองขนาดพกพาได้ง่าย มีส่วนช่วยดูแลผิวให้นุ่ม เด้ง ซึ่งราคาย่อมเยาว์ โดยใน 1 ซองจะมี 3 เม็ด
ราคา 39 บาท
8. Nuui Collagen Tripeptide
A title
Image Box text
คอลลาเจนในเซเว่นยอดนิยม ราคาถูก คอลลาเจนแบบชงน้ำ ช่วยดูแลความชุ่มชื้น และความเนียนใสของผิวพรรณ นอกจากนี้ยังกินไม่อ้วน เพราะใช้สารแทนความหวานที่ให้พลังงาน 0 แคลลอรี่ เหมาะกับสายสุขภาพ
ราคา 29 บาท